Quality Assurance Web Application
Methodology
มีวิธีการอย่างไร?
Tools:
-
Visual studio (V.2013)
-
Microsoft Access (V.2010)
-
C# programing language
-
ASP.NET framework (V.4.5)
-
Internet Explorer (V.11.0)
-
Windows Server (V.2012 Server)
-
Devexpress (.net tools)
-
Bootstrap (Cascading Style Sheet)
-
Javascript
ผู้ศึกษาได้นำแบบทางการพัฒนาระบบแบบวงจร SDLC ( System Development Life Cycle )โดยใช้ แนวทางการปฏิบัติ แบบ Spiral เนื่องจาก สามารถทำให้ ผู้ใช้งานระบบเห็นภาพการใช้งานได้เร็ว ตอบสนองผู้ใช้งานได้ทันที ใช้เวลาน้อยในการพัฒนา สามารถ พัฒนาได้เรื่อยๆ จนกว่า ระบบจะ สมบูรณ์ เหมาะกับ การพัฒนาระบบขนาดเล็ก และ การพัฒนาระบบในรูปแบบนี้ มีความยืดหยุ่นมากที่สุด
1.Planing (วางแผนในการสร้างระบบ)
ในขั้นตอนนี้ผู้ศึกษาได้ทำการ ศึกษาค้นคว้า เพื่อ วางแผนในการพัฒนาระบบ ประกอบกับ เก็บข้อมูล ปัญหาต่างๆ และ ความต้องการของผู้ใช้ระบบ เพื่อศึกษาหาความเป็นไปได้ในการพัฒนาระบบ
2.Analysis (ขั้นตอนการวิเคราะห์ระบบ)
ในขั้นตอนนี้ ผู้ศึกษาเองได้ทำการ นำเอาข้อมูลต่างๆที่ได้จากการวางแผน รวม ถึง ความต้องการของผู้ใช้งาน มาทำการวิเคราะห์ในแง่มุมต่างๆ เช่น การกำหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมาย การกำหนดกลุ่มของผู้ใช้งาน การวิเคราะห์ทางทรัพยากร Hardware และ Software ที่ทางบริษัท มีเพื่อความเหมาะสมในการพัฒนาระบบ รวมถึง วิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้ในการใช้งาน ระบบ ของ ผู้ใช้งาน
3.Design (ขั้นตอนการออกแบบระบบ)
ในขั้นตอนนี้ผู้ศึกษาเองได้นำความต้องการของผู้ใช้ระบบที่ผ่านการวิเคราะห์แล้ว นำมา ออกแบบในส่วนต่างๆของระบบ โดยเริ่มจาก การออกแบบโครงสร้างสำคัญของระบบ เช่น ระบบฐานข้อมูล ฟังก์ชั่นการทำงานของระบบ ความปลอดภัยของระบบ รวมถึงในส่วนของ หน้าตาในการใช้งานระบบ (Graphic User Interface) เพื่อให้ ผู้ใช้ระบบใช้งานได้ง่าย ผู้ศึกษาได้ออกแบบระบบทุกขั้นตอนตามความต้องการ ของผู้ใช้ ในทุกขั้นตอน เพื่อตอยสนองความต้องการในทุกด้าน
4.Development (ขั้นตอนการพัฒนาระบบ)
ในขั้นตอนนี้จะเป็นขั้นตอนที่ผู้ศึกษานำ สิ่งที่ออกแบบไปข้างต้น มาพัฒนาระบบจริง โดยอ้างอิงจากการออกแบบ โดยการพัฒนาระบบนั้น จะพัฒนาแบบรวดเร็ว เน้นนความเร็วในการพัฒนาเป็นตัวต้นแบบ (Prototyping)เพื่อให้ผู้ใช้ได้เห็นภาพตัวต้นแบบ การทำงานของระบบ ว่าสามารถทำตามที่ผู้ใช้ต้องการหรือไม่ เพื่อสามารถปรับปรุงระบบให้เหมาะสมได้ง่ายมาขึ้น โดยการพัฒนาระบบเป็นส่วนๆไปจนเสร็จเป็น System prototype ในแต่ล้ะเวอร์ชั่น พัฒนาไปเรื่อยๆจนกว่าจะตรง ตามความต้องการของผู้ใช้งานระบบ และเป็น เวอร์ชั่นที่สมบูรณ์ที่สุด
5.Testing (ขั้นตอนการทดสอบระบบ)
เมื่อพัฒนาระบบจนสมบูรณ์แล้ว ผู้ศึกษาเองก็จะนำระบบที่ได้มาทำการทดสอบระบบโดย ใช้การ ทดสอบคือ
-
Unit testing โดยจะทดสอบ ในแต่ล้ะ module ย่อย จน ครบทุก module
-
Performance testing เป็นการทดสอบการโหลดข้อมูล และ การรองรับ user ต่อครั้งในการทำงาน
-
Integration testing ทดสอบโดยรวมการทำงานของทุก module เข้าด้วยกันโดยจะเน้นการทดสอบ การทำงานร่วมกัน ของทั้งระบบ
-
System testing ทดสอบระบบโดรวมทั้งหมดว่า ตรงตาม requirement หรือไม่
-
Data comparison เป็นการทดสอบข้อมูลที่อยู่ในระบบ กับรายงาน ว่าตรงกันหรือไม่
-
Beta testing โดยให้ผู้ใช้งานระบบมาทดลองใช้งานระบบ ก่อนจะติดตั้งจริง
6.System Installation(ขั้นตอนการติดตั้งระบบ)
ในขั้นตอนนี้ผู้ศึกษา จะนำระบบที่พัฒนาเสร็จสมบูรณ์ มาทำการติดตั้งลงไปที่ Server ของผู้ใช้งาน เพื่อให้ผู้ใช้งานได้ใช้งานระบบจริง และในระหว่างที่ผู้ใช้งาน ใช้ระบบนั้น ผู้ศึกษาก็จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานระบบ และ ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในขณะใช้งาน เพื่อ ปรับปรุงแก้ไขให้ดีที่สุด จนระบบสามารถใช้งานได้อย่างราบรื่นไม่สะดุด และจัดทำคู่มือการใช้งานระบบ พร้อมทำรายงาน